วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พ่อจีนเฆี่ยนลูกสาวดับ สุดโมโหที่ลูกแอบลอกการบ้าน


พ่อจีนโมโหลูกสาวลอกการบ้านเพื่อน จับลูกคุกเข่ามัดมือก่อนใช้ไม้เฆี่ยนลูกจนเสียชีวิต

          วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 สำนักข่าวซินหัว มีรายงานว่า เกิดเหตุคนงานอพยพในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ใช้ไม้เฆี่ยนลูกสาววัย 11 ขวบ จนถึงแก่ความตาย เหตุโมโหจัดหลังจับได้ว่าลูกสาวแอบลอกการบ้านเพื่อน 

          โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนายจางผู้เป็นพ่อ ได้สั่งให้ลูกสาวของเขาคุกเข่า มัดมือของเธอไว้ก่อนเฆี่ยนตีอย่างหนัก หลังจับได้ว่าลูกสาวแอบลอกการบ้านเพื่อนร่วมชั้นมาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งลูกสาวของเขาหมดสติและหยุดหายใจไป นายจางจึงรู้สึกตัวและรีบพาลูกส่งโรงพยาบาล แต่นั่นก็ไม่ทันเสียแล้ว และเด็กหญิงก็ได้สิ้นใจในเวลา 14.30 น. วันถัดมา (20 พฤษภาคม) ขณะที่แพทย์ยังได้พบรอยฟกช้ำและบาดแผลที่รอบคอและแผ่นหลังของเด็กหญิง ทั้งยังมีสัญญาณของการขาดอากาศหายใจนาน 5 นาทีด้วย

          ทั้งนี้ การลงโทษเด็กเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติของชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทซึ่งผู้ปกครองได้ตั้งความหวังถึงความสำเร็จในด้านการศึกษาของบุตรหลานไว้สูงมาก 

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก zibosky.com

อย. เตือนอย่าซื้อยาทำแท้งผ่านเน็ต อันตรายถึงชีวิต

     
    อย. เตือน อย่าซื้อยาทำแท้งที่โฆษณาขายในอินเทอร์เน็ตมาใช้ กินแล้วอาจมดลูกแตก ตกเลือด ถึงขั้นเสียชีวิต ย้ำ ยาที่ขายผิดกฎหมาย 
              เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ในฐานะโฆษก อย. กล่าวถึงกรณีที่พบการลักลอบขายยาทำแท้งไซโตเท็ค และยาอาร์ยู 486 ผ่านทางเว็บไซต์ต่าง ๆ ว่า รู้สึกเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะยาไซโตเท็ค จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ให้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น โดยมีข้อบ่งใช้สําหรับรักษาแผลของลําไส้เล็กส่วนต้นของกระเพาะอาหาร รวมทั้งแผลที่เกิดเนื่องจากการใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) ในผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบ แต่ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่วางแผนการตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด

              รองเลขาธิการฯ และโฆษก อย. กล่าวต่อไปว่า จากผลข้างเคียงที่ระบุเป็นข้อห้ามใช้ยาดังกล่าวนี้เอง จึงทําให้มีการนํายามาใช้ผิดวิธีและผิดกฎหมาย ซึ่งผลที่ตามมานั้นอาจทําให้มดลูกเกิดการรัดตัวอย่างรุนแรงจนเกิดการปริแตก และอาจเกิดภาวะตกเลือดในช่องท้องอย่างเฉียบพลัน จนช็อกจากการเสียเลือดมากและเสียชีวิตในที่สุด 

              สําหรับยาอาร์ยู 486 ที่โฆษณาอวดอ้างเป็นยาทําแท้งนั้น รองเลขาธิการฯ อย. ระบุว่า ยาดังกล่าวยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตํารับยาจาก อย. เนื่องจากเข้าข่ายเป็นยาที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านอื่น ๆ หรืออาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม และอาจมีการนําไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่าย จึงไม่สามารถนํามาจําหน่ายในประเทศไทยได้ ดังนั้น การจะทําแท้งหรือยุติการตั้งครรภ์ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 

              ดังนั้น รองเลขาธิการฯ อย. จึงได้เตือนผู้บริโภคอย่าได้ซื้อยาใด ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ หรืออินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะยาที่จะนํามาทําแท้ง เพราะเป็นยาที่ลักลอบนําเข้ามาอย่างผิดกฎหมายแน่นอน ซึ่งอาจได้รับยาปลอม ยาเสื่อมคุณภาพ เนื่องจากไม่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในการเก็บรักษายา และอาจมีส่วนประกอบสําคัญของยาในปริมาณที่เกินกําหนด จนอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต 

              ทั้งนี้ หากพบเห็นการโฆษณายาทำแท้ง หรือได้รับอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ขอให้ร้องเรียนที่ สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือ E-mail :1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อ อย. จะได้ดําเนินการปราบปราม และดําเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทําผิดต่อไป




    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ทอมบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคารกสิกร หาเงินใช้หนี้



            เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด หลังมีสัญญาณเตือนภัยจากธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดดวงแก้ว ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ

            ในที่เกิดเหตุพบระเบิดทำมือ (ระเบิดควัน) 3 ลูก อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ธนาคาร 1 ลูก อยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ 2 ลูก ซึ่งระเบิดด้านไม่ทำงาน 1 ลูก โดยผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นางสาวธนวัน ชื่นชวนชม อายุ 35 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้ถูกนายณรงค์ วงศ์ศิลปการ พนักงานแคชเชียร์ ตำแหน่งผู้บริหารเงินสดของธนาคาร และนายวิทวัส เขตรคง อายุ 29 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างวินตลาดดวงแก้วอยู่ติดกับธนาคาร ได้จับตัวคนร้าย พร้อมของกลางกระเป๋าเป้หลังสีดำ 1 ใบ บรรจุระเบิดควัน 4 ลูก และกระเป๋าสะพายข้างลายดอก 1 ใบ ระเบิดควัน 3 ลูก และเงินสดจำนวน 187,500 บาท ซึ่งได้ไปจากเคาน์เตอร์ธนาคาร

           จากการสอบสวน นางสาวธนวัน ให้การว่า ต้องการเงินไปใช้หนี้ธุรกิจที่เกี่ยวกับร้านคอมพิวเตอร์ โดยเดินทางไปธนาคารคนเดียว พร้อมสะพายกระเป๋า 2 ใบ จากนั้นได้ขว้างระเบิดควันเข้าไปในธนาคารก่อน 2 ลูก และขว้างระเบิดควัน 1 ลูก ไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ ในขณะที่พนักงานกำลังให้บริการลูกค้าอยู่ ก่อนที่จะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์และหยิบเงินสดในลิ้นชักเคาน์เตอร์ไปได้ 187,500 บาท แล้ววิ่งหนีข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อแอบอยู่ด้านหลังป้ายโฆษณารอจังหวะหลบหนี จนเจ้าหน้าที่ธนาคารที่วิ่งติดตามไปพบตัว

            จากนั้นเมื่อตนเห็นพนักงานธนาคาร จึงได้ข้ามฝั่งกลับมาที่ฝั่งเดียวกับธนาคารเพื่อเตรียมเรียกรถแท็กซี่แต่แท็กซี่ไม่รับ จนกระทั่งมีพลเมืองดีขับรถจักรยานยนต์รับจ้างวิ่งไล่ตามจนถูกจับตัวได้ในที่สุด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

จับหนุ่มฆ่ากดน้ำแฟนวัย 17 ปี อ้างแค้นไปชอบเพศเดียวกัน



ตำรวจรวบตัวชายอายุ 25 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช หลังก่อเหตุฆ่าทอมวัย 17 ปี เจ้าตัวอ้างเป็นแฟนกัน แต่ทอมไปจีบหลานสาว จึงทะเลาะกันและลงมือฆ่าด้วยความแค้น

           วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรีธรรมราช เข้าจับกุมตัว นายเอกพจน์ คชพลาย อายุ 25 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาฆ่า น.ส. เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แล้วทิ้งศพในคูระบายน้ำ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

           โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า นายเอกพจน์ และ น.ส. เอ ที่มีนิสัยเป็นทอม สนิทสนมไปกินเที่ยวด้วยกันตลอดและคบหากันแบบแฟนด้วย คือคบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่นายเอกพจน์โกรธแค้นที่ น.ส.เอ ไปจีบหลานสาวนายเอกพจน์ จึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง และลงมือบีบคอพร้อมกดให้จมน้ำ ก่อนเหยียบศพจมโคลน ซึ่งเมื่อนำตัวผู้ต้องหาไปที่โรงพัก ก็มีญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้านมารุมประชาทัณฑ์อย่างชุลมุน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

สาววัย 15 ย่องลักทรัพย์นักเรียน รร.ดังนครพนม กว่า 2 แสน



            เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินของเด็กนักเรียนในห้องเรียนของโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้เสียหาย จำนวน 9 ราย เป็นนักเรียนหญิง 6 ราย และนักเรียนชาย 3 ราย อายุระหว่าง 14-15 ปี และทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้น ม.3/11 English Program ซึ่งเป็นห้องเรียนวีไอพีของโรงเรียนดังกล่าว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนักเรียนทั้่งหมดได้เข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธง แต่เมื่อเดินกลับมายังห้องเรียนก็พบว่า กระเป๋านักเรียนถูกรื้อค้น และจากการตรวจดูพบว่า มีโทรศัพท์ จำนวน 9 เครื่อง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งได้หายไป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200,000 บาท 

           ซึ่งหลังรับแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัว ด.ญ.โบว์ (นามสมมติ) เพื่อนร่วมชั้นของผู้เสียหายมาสอบปากคำ เนื่องจากระหว่างเกิดเหตุ  ด.ญ.โบว์ ได้นั่งอยู่ที่ห้องเรียนเพียงลำพัง ซึ่งทางด้าน ด.ญ.โบว์ ก็ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนขโมยทรัพย์สินของเพื่อนร่วมชั้นไป โดยหลังสอบปากคำเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินทางมาตรวจจุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานมาใช้ประกอบการดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป

            จนกระทั่งในเวลา 17.00 น. ของวันเดียว มีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ในโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดได้แล้ว โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว คือ น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ น.ส.พิมพ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าว เพื่อทำเรื่องย้ายที่เรียนไปยังโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน ต.บ้านผึ้ง เนื่องจากเดิมที น.ส.พิมพ์ เรียนอยู่ชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นอดีตนักมวยหญิงด้วย

            น.ส.พิมพ์ เล่าต่อว่า เมื่อเดินทางมาถึงโรงเรียน เห็นว่า เด็กนักเรียนกำลังเข้าแถวอยู่ที่หน้าเสาธง ตนจึงตัดสินใจทำการรื้อค้นเอาทรัพย์สินของนักเรียนในห้อง เพื่อนำไปขายเพราะต้องการนำเงินไปใช้จ่าย ภายหลังจากที่ได้ทรัพย์สินมีค่า ตนก็ได้นำโทรศัพท์มือถือทั้งหมดไปขาย ก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ลูกชายสุดทน คว้าไม้ทุบหัวพ่อเลี้ยงดับ แค้นเมาทำร้ายแม่



            วันนี้ (22 พฤษภาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (21 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุมีคนฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 4 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จึงรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพ นายเหมือน สุทธิ อายุ 50 ปี สภาพถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ด้านหลังศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิต โดยมี นายเฉลา จันทะคุณ อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวอยู่ใกล้ ๆ  

            จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือสังหารนายเหมือน เนื่องจากนายเหมือน ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของตนเองได้อยู่กินกับแม่ของตนคือ นางขาว สุทธิ อายุ 54 ปี มา 5 ปี แต่นายเหมือนเป็นคนชอบดื่มสุราและเมื่อเมาก็จะหาเรื่องทุบตีแม่ของตนเป็นประจำ โดยในวันเกิดเหตุนายเหมือนก็ดื่มสุราจนเมาและทำการทุบตีแม่อีกจนตนทนไม่ไหว บันดาลโทสะ ใช้ไม้ไผ่ตีที่ศีรษะของนายเหมือนจนถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการควบคุมตัวนายเฉลา ไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ช็อก แม่มะกันพบหนุ่มซ่อนในตู้เสื้อผ้าห้องลูกสาว ลักลอบมีอะไรกัน




            เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เว็บไซต์ wsoctv ของสหรัฐฯ รายงานว่า คุณแม่จากรัฐนอร์ธ แคโรไลนา ถึงกับช็อกสุดขีด เมื่อเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าในห้องลูกสาววัย 14 ปี แล้วพบหนุ่มแปลกหน้าซ่อนอยู่ข้างใน หนุ่มรายนี้รีบผละออกไปแต่ลืมโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ทิ้งไว้ที่ห้อง พบว่าชื่อนายจาเรด เวิร์กแมน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา 
หลังแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว หนุ่มรายนี้ก็ยอมมามอบตัวในที่สุด จากการสอบปากคำพบว่าชื่อนายจาเรด เวิร์กแมน อายุ 27 ปี รู้จักกับลูกสาววัย 14 ปีของคุณแม่ทางอินเทอร์เน็ต โดยได้ติดต่อคุยกันมานาน 3 สัปดาห์ก่อนนัดเจอหน้ากัน โดยได้มาพบเด็กหญิงที่บ้านในวันที่ 27 เมษายน และซ่อนตัวอยู่ในห้องของเธอจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม จนกระทั่งถูกแม่ของเด็กหญิงมาพบตัวในตู้เสื้อผ้าเข้า ทางด้านเด็กหญิงก็ให้การตรงกัน โดยระบุว่าในช่วง 5 วันที่หนุ่มรายนี้ดอดมานอนด้วย ได้มีเพศสัมพันธ์กันไปแล้ว 1 ครั้ง

            นายจาเรดถูกนำตัวขึ้นศาลเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา (20 พฤษภาคม) โดยถูกตั้งข้อหา 16 กระทง รวมทั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนการพิจารณาโทษจะนัดไต่สวนอีกครั้ง ซึ่งนายจาเรดอาจต้องรับโทษจำคุกไปตลอดชีวิตโดยไม่ต้องรอลงอาญา

            ด้านมารดาของเด็กหญิงรายนี้ กล่าวว่า รู้สึกช็อกและขวัญเสียมากที่รู้ว่ามีคนแปลกหน้ามาหลบอยู่ในบ้านตัวเองตั้งหลายวัน ที่สำคัญยังแอบมีอะไรกับลูกสาวเธอด้วย เธออยากให้ผู้ปกครองรายอื่น ๆ เห็นความสำคัญของการสอดส่องดูแลพฤติกรรมในโลกออนไลน์ของลูก ไม่อย่างนั้นเด็กอาจกลายเป็นเหยื่อเหมือนลูกสาวของเธอ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ TomoNews US สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ยายวัย 71 แจ้งความถูกหลานชายแท้ ๆ หลอกไปข่มขืน




            เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นางนิด (นามสมมติ) วัย 71 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าถูก นายโอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นหลานชายแท้ ๆ ลวงไปข่มขืน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมหลานชายได้ ทั้ง ๆ ที่มีคนเห็นว่าหลานชายขี่รถจักรยานยนต์ตามถนน

            โดย นางนิด ให้การทั้งน้ำตาว่า นายโอเป็นลูกของลูกสาวตน ซึ่งเป็นหลานชายแท้ ๆ ที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 00.15 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2557 ขณะที่ลูกหลานนอนหลับพักผ่อนกันอยู่ในบ้าน นายโอได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125 สีดำ แต่จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ มาที่บ้านแล้วมาปลุกตนพร้อมบอกว่า แม่ถูกรถชนให้ไปดูหน่อย

            จากนั้นตนจึงได้ซ้อนรถนายโอออกไป ก่อนนายโอจะพาไปวนตามซอยต่าง ๆ จนมาถึงบริเวณป่าหญ้า ซึ่งมีความมืด ก่อนจอดรถแล้วใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง และบอกให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ จากนั้นได้ขี่รถพาตนมาส่งที่บ้านก่อนหลบหนีไป จากนั้นตนจึงได้บอกลูก ๆ และพากันมาแจ้งความ

            ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า เบื้องต้นได้ออกหมายจับนายโอ ผู้ต้องหาแล้ว ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยหลังจากได้รับแจ้งความ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกระจายกำลังตามหาตัว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะยังคงอยู่ในพื้นที่ หากผู้ใดได้เบาะแสคนร้ายแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมได้ทันที

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พูดดีเข้าใจง่าย พูดร้ายเข้าใจยาก


       วันนี้ได้มีโอกาสนั่งอ่านเอกสารเวียงพิงค์ ซึ่งเป็นวารสารของเทศบาลนครเชียงใหม่ ฉบับที่ ๑๘๑ ประจำเดือน พฤษภาคม ๒๕๕๗ ในเนื้อหาก็จะเป็นเรื่องการปฏิบัติงานของผู้บริหารเทศบาลที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนในพื้นที่ในด้านต่าง ๆ เปิดมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าเกือบท้ายสุดเจอคอลัมน์ที่ชื่อว่า ธรรมะเวียงพิงค์ หลักธรรมในการดำรงชีวิต ในหัวข้อ " พูดดีเข้าใจง่าย พูดร้ายเข้าใจยาก " ของหลวงพ่อชา สุภัทโท ซึ่งหลวงพ่อได้สอนไว้ดีมากในฐานะที่เราก็เป็นพ่อคนนึง อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่าที่หลวงพ่อท่านสอนล้วนเป็นสิ่งสำคัญ และมีประโยชน์มากกับการสอนลูกของเรา หรือแม้กระทั่งการทำงานผมว่าก็สามารถใช้ได้นะ เพราะธรรมะที่หลวพ่อสอนเกี่ยวข้องกับการระงับความโกรธ และรู้ว่าอะไรควรพูดตอนไหน เห็นว่าดีครับก็เลยนำมาบอกต่อครับผม

        คนทีฉลาดแล้ว สอนไม่มากหรอก  ถ้าคนไม่ฉลาด  สอนมากแค่ไหน ... ก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มันเกี่ยวกับคนสอนด้วยนะ

        โดยมาก... คนเราเวลาไม่สบายใจ จึงสอนลูกเรา เราโกรธแล้วจึงสอน มันก็ด่ากันเท่านั้นหล่ะ ไม่ยอมสอนกันดี ๆ หรอก ก็คนใจไม่ดี ไปสอนกันทำไม " อาตมาว่า อย่าไปสอนในเวลานั้น ให้ใจมันสบายก่อน มันจะผิดอย่างไรก็เอาไว้ก่อน ให้มันใจดี ๆ ซะก่อน "

        นี่โยมจำไว้นะ อาตมาสังเกตโยมสอนลูกแต่เวลาโมโหเท่านั้นละ มันก็เจ็บใจละซิ เอาของไม่ดีให้เขา เขาจะเอาทำไม ตัวเราก็เป็นทุกข์  ลูกเราก็เป็นทุกข์ นี่มันเป็นอย่างนี้

        " คนเรามันชอบดี ๆ ทั้งนั้นละ แต่ความดีเราไม่พอ ให้ความดีมันไม่เป็นเวลา ไม่รู้จักบทบาท ไม่รู้จักกาลเวลา มันก็เป็นไปไม่ได้ อันนี้ก็เหมือนกันฉันนั้น "

        อาหารที่มันอร่อย เราต้องทานทางปาก มันจะเกิดประโยชน์  ลองเอาเข้าทางหูซิ มันจะเกิดประโยชน์ไหม อาหารอร่อย ๆ จะมีประโยชน์ไหม คนเรามันมีประตูเหมือนกันละ ต้องเข้าหาประตู ทุกคนก็เป็นอย่างนั้น

คดีฆ่าเผายัดเก๋ง ตร.มุ่งประเด็นฆ่าเอาเงินประกัน-ชู้สาว

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
20 พ.ค.- ความคืบหน้ากรณีคนร้ายฆ่า นายเจษฎาพร ถิ่นนา อายุ 39 ปี ในรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีแดง หมายเลขทะเบียน กน 9882 ระยอง แล้วจะจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดี เหตุเกิดที่บริเวณถนนสายเขาช่องลม-ชำฆ้อ หมู่ 4 ต.ชำฆ้อ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง โดยบ่ายวันนี้ พ.ต.อ.ประเสริฐ มาเห็ม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาชะเมา เรียกชุดสืบสวนประชุมติดตามคดีและติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมนำภรรยาของผู้เสียชีวิตมาสอบสวนด้วย รวมทั้งให้ชุดสืบสวนหาข้อมูลในที่เกิดเหตุ สอบปากคำผู้พบรถผู้ตายเป็นคนแรกเพื่อหาเบาะแสคนร้ายในคดีนี้
เบื้องต้นตั้งประเด็นไว้หลายประเด็น ทั้งการทำประกันรถและอุบัติเหตุในวงเงินสูง เรื่องชู้สาว และยาเสพติด โดยให้น้ำหนักไปที่เรื่องการทำประกันรถและอุบัติเหตุ เนื่องจากทราบว่าผู้ตายได้ทำประกันรถและอุบัติเหตุไว้เป็นวงเงินสูงถึง 2 ล้านบาท ผู้ได้รับผลประโยชน์คือภรรยา ส่วนเรื่องชู้สาวผู้ตายมีนิสัยเจ้าชู้ อาจจะไปติดพันหญิงสาวที่มีสามี กำลังตรวจสอบข้อมูลด้านนี้ และเรื่องยาเสพติดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังดำเนินการสืบสวนติดตามอยู่เช่นกัน เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์แล้วตัดออกทีละประเด็น ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสักระยะหนึ่ง - สำนักข่าวไทย

สุดสลด! ป.6 ชักมีดแทงตัดขั้วหัวใจเพื่อนร่วมห้องดับ

เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง ได้รับแจ้งเหตุจากโรงพยาบาลตะโหนด มีเหตุเด็กนักเรียนทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกัน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงโรงพยาบาลพบกลุ่มครูอาจารย์โรงเรียนแห่งหนึ่ง พาเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้ามารับการรักษา เนื่องจากถูกแทงเข้าที่ใต้รักแร้ข้างซ้าย 2 แห่ง แพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่ปรากฏว่าเด็กชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เนื่องจากถูกแทงเข้าที่อวัยวะสำคัญ ตัดขั้วหัวใจเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ ด.ช.เหน่ง (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุ ด.ช.เหน่ง กับ ด.ช.โจ (นามสมมติ) ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนเดียวกัน ได้เกิดทะเลาะกัน ตั้งแต่ช่วงพักกลางวัน
จนกระทั่งช่วงเย็นก่อนเลิกเรียน ครูอาจารย์ได้เข้าประชุมกัน ปล่อยเด็กนักเรียนวิ่งเล่นกันตามอัธยาศัย ด.ช.โจ กับ ด.ช.เหน่ง ก็ได้ทะเลาะวิวาทกันอีกครั้งอยู่ที่ใต้อาคารเรียน ด.ช.เหน่ง มีทีท่าคล้ายจะสู้ไม่ไหว จึงได้ชักอาวุธมีดพกแทงใส่ ด.ช.โจ เพื่อนนักเรียนที่พบเห็นเหตุการณ์จึงรีบวิ่งไปบอกครูอาจารย์ที่กำลังประชุมกันอยู่ ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3

วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รวบโชเฟอร์รถเมล์ ซิ่งรถส่ายไปมา ตรวจเจอฉี่ม่วง


ตำรวจรวบโชเฟอร์รถเมล์ สาย 75 ขับขี่รถส่ายไปมาอย่างน่าหวาดเสียวที่สะพานกรุงเทพฯ ด้านโชเฟอร์รถเมล์ สาย 75 รับสารภาพ เพิ่งเสพยาบ้ามา 

          วันนี้ (19 พฤษภาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล ได้ทำการควบคุมตัว นายวัชระ มีพร้อม อายุ 23 ปี คนขับรถโดยสารประจำทาง สาย 75 หลังจากที่นายวัชระ มีพร้อม ถูกตำรวจจราจรเรียกดูใบขับขี่ เนื่องจากว่า ขณะที่นายวัชระ ขับรถโดยสารประจำทาง สาย 75 ลงมาจากสะพานกรุงเทพฯ ได้ขับรถส่ายไปมาคล้ายคนที่ไม่สามารถควบคุมรถได้ 

          จากการสอบถามในเบื้องต้น นายวัชระ ให้การรับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้าก่อนที่จะมาขับรถจริง ประกอบกับเมื่อทำการตรวจปัสสาวะ ก็พบว่ามีสารเสพติด จึงได้นำตัวนายวัชระไปยัง สน.บุคคโล เพื่อดำเนินคดีต่อไป


อ่ายรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ยาเสพติดชนิดใหม่ในเกาหลีเหนือ

หลังจากที่สั่นคลอนจากการแพร่ระบาดของเมทแอมเฟตามีนมานานนับทศวรรษ เกาหลีเหนือก็ต้องเผชิญกับวิกฤตยาเสพติดอันตรายระลอกใหม่อีกครั้ง
“ยาเสพติดรุนแรงชนิดใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า ‘แอมิดอน’ กำลังแพร่กระจายไปทั่วเกาหลีเหนืออย่างรวดเร็ว” นายโอ ฮยอน วู เขียนลงเว็บไซต์เดลี่เอ็นเคของกรุงโซลเมื่อวันที่ 17 มกราคม
“จำนวนผู้ค้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายแอมิดอนเพิ่มทวีขึ้นเรื่อย ๆ และประชาชนจำนวนมากก็กำลังตกเป็นทาสของยาเสพติดอยู่ในเวลานี้” เดลี่เอ็นเค รายงาน
นายโอยังรายงานเกี่ยวกับผู้ค้ายาจากฮัมฮึงในจังหวัดฮัมกยองใต้ที่ได้ให้ข้อมูลว่ายาเสพติดส่วนใหญ่ถูกผลิตขึ้นในเมืองดังกล่าว โดยทั้งนี้รายงานของเดลี่เอ็นเค อ้างอิงจากข้อมูลที่ไม่ได้ระบุแหล่งที่มา
แอมิดอนถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาวัณโรคเป็นหลัก และมีชื่อสามัญว่าเมทาโดนซึ่งเป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการถอนพิษเฮโรอีน
ฤทธิ์ของแอมิดอนนั้นรุนแรงยิ่งกว่าเมทแอมเฟตามีน หรือที่รู้จักกันว่าคริสตัลเมท
ผลข้างเคียงของยามีตั้งแต่อาการกระวนกระวาย ตื่นกลัว นอนไม่หลับ ปากแห้ง อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูกไปจนถึงเบื่ออาหาร
เดลี่เอ็นเค รายงานว่าแอมิดอนมีอานุภาพในการเสพติดที่รุนแรงถึงขั้นที่ผู้เสพจำนวนมากต้องนำของใช้ในบ้านออกมาขายทอดตลาดในราคาถูกเพื่อหาเงินมาซื้อยา ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ติดยาเสพติดหลายคนถึงกับออกปากเตือนคนรู้จักไม่ให้ลองเสพด้วย

วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

รากฐานสำคัญในการพัฒนาความฉลาดของเด็ก


พญ.ปราณี เมืองน้อย 
กุมารแพทย์-จิตแพทย์เด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี 
คงไม่มีผู้ใดปฏิเสธว่า ความสุขของพ่อแม่คือการพัฒนาลูกให้ฉลาด มีความสามารถและยังต้องมีความสุข เรียกได้ว่า ทั้งเก่ง ดีและมีสุขไปพร้อมๆ กัน
โอกาสทองแห่งการพัฒนาเด็กคือวัย แรกเกิด-5 ขวบแรก เนื่องจากเป็นวัยที่สมองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีความตื่นตัวและสนอกสนใจสิ่งต่างๆ ช่างซักถาม คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ปู่ย่าตายายและครูจึงเอ็นดูเด็กและไม่เบื่อหน่ายในการสอน เป็นวัยที่เหมาะจะสร้างความแข็งแกร่งเป็นพื้นฐานสำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์และประสบความสำเร็จในอนาคตจึงมีคำกล่าวว่า ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก เนื่องจากติดเป็นนิสัยเสียแล้ว 
ไอคิว (IQ) มาจาก Intelligence Quotient คำว่า Intelligence หมายถึง เชาวน์ปัญญา ความคิด ไหวพริบ ความฉลาด ความเข้าใจ รู้จักคิด สิ่งนี้จึงช่วยเด็กในการเรียนรู้ด้านต่างๆ ตั้งแต่ความสามารถด้านพัฒนาการวัยเด็ก จนถึงการเรียน การทำงาน ไอคิวจะดีหรือไม่ขึ้นกับพันธุกรรม อาหารแล้วยังขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูอีกด้วย เด็กที่ไอคิวมีปัญหาอาจแสดงออกแตกต่างกันตามระดับความรุนแรง เช่น อาจมีปัญหาพัฒนาการทางกล้ามเนื้อหรือภาษาล่าช้า หรือโตขึ้นมีปัญหาการเรียน หลายรายอาจมาด้วยปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวเนื่องจากการสื่อสารบอกความต้องการจำกัด แต่การเลี้ยงดูและฝึกฝนที่เหมาะสมสามารถช่วยให้เด็กมีการพัฒนามากขึ้นได้ 
แต่เด็กอีกหลายรายที่ไอคิวดี เรียนเก่ง แต่กลับมีปัญหาสังคมกับเพื่อน ไม่เป็นที่รักหรือไม่ได้รับการยอมรับจากเพื่อน ทำให้ไม่มีความสุขกับการไปโรงเรียน แยกตัว หงุดหงิดง่าย อาการเหล่านี้แสดงว่ามีปัญหาด้านอีคิว (EQ) ซึ่งมาจากคำว่า Emotional Quotient คือความฉลาดทางอารมณ์ ความฉลาดทางอารมณ์ประกอบด้วยทักษะหลายด้านคือความสามารถในการรู้จักตนเองอย่างแท้จริง มีความสามารถยับยั้ง ควบคุมอารมณ์ตนเองได้ รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา และยินดีให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ตลอดจนมีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จ รู้จักตั้งเป้าหมายชีวิตตนเอง มีวินัยในตนเอง มีความอดทน มานะ บากบั่น พากเพียร สิ่งเหล่านี้จะมีการพัฒนาอย่างเป็นลำดับขั้น ต้องอาศัยการสอนจากผู้ใหญ่ปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็ก ไม่ใช่สิ่งที่ได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิดเหมือนไอคิว แต่จะเป็นส่วนเสริมไอคิว ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและมีความสุข ผู้ที่มีแต่ไอคิวดีแต่ขาดอีคิวในที่สุดจะเข้าตำรา ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด คงไม่มีคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเป็นเช่นนั้น
หากลูกดีทั้งไอคิว อีคิว แต่ขาดสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ เอ็มคิว(MQ) ซึ่งมาจาก Moral Quotient คือคุณธรรม จริยธรรม สังคมเราคงมีแต่คนทำงานเก่ง ประจบเก่ง เข้าหาคนเก่ง แต่คดโกง ปลิ้นปล้อน ในที่สุดจะพาสังคมตกต่ำ และไม่เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล 
ทุกศาสนามีการสอดแทรก คุณธรรมจริยธรรมอยู่เสมอ ดังนั้นหากพ่อแม่พยายามปลูกฝังตั้งแต่เด็กจะทำให้เด็กซึมซับ โตขึ้นเด็กจะมีคุณธรรมประจำตัว ทำให้ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและมีความสุขสมดังที่พ่อแม่ปรารถนา

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สาวนั่งดริ้งร้านเน็ต อย่างกะ ร้านคาราโอเกะ


ร้านเน็ต อย่างกะ ร้านคาราโอเกะ (18+)
             เห็นข่าวแล้ว ก็ได้แต่ร้องว่า (ทำม๊ายยยย ทำไม ทำงี้ล่ะน้อง ) เพิ่งรู้ว่าเดียวนี้เค้าทำการค้าแบบนี้กัน การค้าขายสมัยนี้เค้ามีกลยุทธ์และพัฒนาการในเรื่องการให้บริการแปลก ๆ จริง ๆ
             เป็นการให้บริการของ ร้านอินเตอร์เนทคาเฟ่ของประเทศจีนเค้า (ปักกิ่ง) ที่จริงข่าวนี้ก็เห็นเป็นภาพที่มีการส่งต่อ ๆ กันมาตามฟอร์เวิรด์เมล์มาสักระยะแล้ว ซึ่งในร้านจะมีพนักงานหญิงหน้าตาสวย แต่งตัวเปิดส่วนโค้งส่วนเว้านิดหน่อยๆ มาคอยเป็นเพื่อนเล่นอินเตอร์เนทให้ลูกค้า ที่ส่วนใหญ่ 99% ว่าเป็นผู้ชายมาเล่น ไม่ว่าจะเล่นเกมส์ออนไลน์ เช็คอีเมล์ เล่นเฟสบุ๊ค โอ้ย สารพัดสารเพเท่าที่จะทำได้
แต่ที่มันพิเศษจนหยิบมาเขียนกันคือ ที่ร้านนี้นั้นสามารถเลือกพนักงานบริการหญิงมานั่งด้วย โดยสามารถเลือกได้ด้วย 

ความคิด blogger

          ถ้าร้านเกมส์บ้านเรานำกลยุทธ์นี้มาใช้ พ่อแม่ผู้ปกครองคงปวดหัวกันน่าดูนะครับ เพราะแค่ธรรมดาไม่มีสาวมานั่งบริการเด็ก ๆ ก็ติดเกมส์กันชนิดที่ว่าสามารถนั่งเป็นวัน ๆ ไม่กินข้าวกินน้ำได้อยู่แล้ว แล้วข่าวในลักษณะนี้จะถูกส่งกันเร็วมาก เผลอ ๆ ที่ผมกำลังนั่งเขียนบล็อกนี่อยู่เด็ก ๆ อาจจะรู้แล้วก็เป็นได้ เมื่อพูดถึงข่าวนี้ก็วกมากับกรณีที่เด็กติดเกมส์จนเสียการเรียน สิ่งที่ผมได้ประสบการณ์จากการทำงานและได้ไปบรรยายให้ความรู้ในที่ต่าง ๆ พบว่าปัญหาเด็กติดเกมส์นั้นรุนแรงมากในระดับที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน บางคนถึงกับเรียนแบบเกมส์ที่ชอบ ทั้งการแต่งตัว , พฤติกรรม หรือแม้กระทั่งรุนแรงไปจนถึงฆ่าตัวตายก็มี เพราะฉะนั้นเกมส์เปรียบเสมือนกับเหรียญที่มีสองด้าน ถ้าเล่นเกมส์ที่เหมาะกับเด็ก เล่นในเวลาที่เหมาะสม มันก็จะเป็นการเสริมสร้างจินตนาการได้ แต่ถ้าเล่นเกมส์ที่มีความรุนแรง แล้วเล่นทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ก็คงไม่ต้องถามว่ามันจะเกิดประโยชน์ได้อย่างไร คนที่จะคอยดูแลและเอาใจใส่ก็คงจะหนีไม่พ้นคนในครอบครัวอย่างแน่นอน วิธีการที่ผมได้จากประสบการณ์ที่นอกเหนือจากการใส่ใจของผู้ปกครองก็คือ การให้เด็กมีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ เพราะถ้าเด็กรู้หน้าที่ตนเองแล้วเวลาที่ว่างมากมายเหลือเกิน ที่พ่อแม่ไม่เคยให้ลูกทำอะไรมันก็จะลดน้อยลง เวลาไปเล่นเกมส์มันก็จะน้อยลงตามไปด้วย , ต่อมาก็คือการทำกิจกรรมร่วมกันของคนในครอบครัว ทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่สอนลูกไม่ให้เล่นเกมส์เล่มคอมพิวเตอร์ แต่พ่อแม่เองกลับเล่น chat , line , facebook ตลอดเวลาอันนี้ก็คงจะแก้ไม่ได้ อันนี้เป็นเรื่องของพฤติกรรม แต่อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของบ้าน คือการจัดวางคอมพิวเตอร์ พ่อแม่ส่วนใหญ่กลัวลูกลำบากในห้องขนทุกอย่างเข้าไปหมด ทีวี คอมพิวเตอร์ ฯลฯ แต่ความจริงสมควรแล้วหรอ มองยังไงก็ไม่สมควร ตามหลักที่เค้าทำกันก็คือ เอาคอมพิวเตอร์ไว้กลางบ้านในจุดที่พ่อแม่หรือคนในบ้านสามารถเดินผ่านไปผ่านมา เพื่อสอบถามพูดคุยกับลูกว่าเล่นอะไร เป็นอย่างไรบ้าง อันนี้ไม่ใช่การจับผิดนะครับ ถ้าเราทำอย่างสม่ำเสมอ ลูกก็จะเข้าใจเพราะมันเหมือนเป็นเรื่องปกติ สุดท้ายก็ฝากไว้ที่ผมได้พูดมาทั้งหมด ถ้าเห็นด้วยก็นำไปปฏิบัติ แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร ถือว่าอ่านไว้เป็นข้อมูล เพราะคุณอาจจะมีข้อมูลที่ดีกว่าผมก็เป็นได้.

ชาวบ้านโมโหเด็กแว้นซิ่งกลางดึก ซัดลูกซองสั่งสอน


ชาวบ้านอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โมโหเด็กแว้นซิ่งกลางดึก ซัดลูกซองถล่มสั่งสอน เจ็บ 3 เผยเคยแจ้งตำรวจแล้วแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะเด็กแว้นมีวิทยุดักฟังเครือข่ายตำรวจ

            วันนี้ (13 พฤษภาคม 2557) เมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่ถนนมาลัยแมน สาย 321 สุพรรณบุรี-อู่ทอง หมู่ 4 ต.อู่ทอง จึงรุดไปตรวจสอบ
            ทั้งนี้ เมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์สภาพใหม่และแต่งซิ่งหลายคันล้มระเนระนาดอยู่ริมถนน ใกล้กันนั้นพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 4 ปลอก ส่วนคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ทราบชื่อคือ นายอภิชาต สุขสมวงศ์ อายุ 29 ปี ถูกยิงที่น่องซ้าย, นายจิรพันธ์ อุดมญาติ อายุ 19 ปี ถูกยิงที่ข้อมือ และนายเต้ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ถูกยิงบริเวณกลางหลัง

            จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นแก๊งซิ่งจักรยานยนต์ นัดมาประลองความเร็วที่ถนนสายดังกล่าว ทำให้เกิดเสียงดังหลายรอบ จนชาวบ้านที่ใกล้เคียงนอนไม่หลับและรำคาญทนไม่ไหว ใช้อาวุธปืนลูกซองยิ่งขู่ไล่เพื่อให้วัยรุ่นเลิก แต่กระสุนพลาดไปโดนจนได้รับบาดเจ็บ

            สำหรับบริเวณดังกล่าวนั้น มักมีวัยรุ่นมาแข่งจักรยานยนต์กันมากมาย จนชาวบ้านระอา และตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากแก๊งวัยรุ่นมีวิทยุสื่อสารดักฟังเครือข่ายของตำรวจ ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ ตำรวจจะสอบหามือยิงที่ก่อเหตุเพื่อมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก 


แนวคิด blogger

              จากข่าวที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นเรื่องที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่องจากปัญหาเด็กแว้นซิ่งรถ ซึ่งจากเรื่องดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าต่อไปนี้เราจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา ไม่ต้องโยนความผิดให้ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้อีกต่อไป เพราะถ้ามัวแต่หาคนผิดคงจะไม่ได้แก้ไขแน่นอน ที่กล่าวแบบนี้เพราะทุกครั้งที่ปัญหาเกิด ก็จะโทษที่ผู้ปกครองไม่ใส่ใจบ้าง , ตำรวจละเลยบ้าง หรือโทษที่ความคึกคะนองของเด็กวัยรุ่นบ้าง ควรจะมีการพูดคุยเพื่อออกกฎระเบียบที่มันปฏิบัติได้จริง จนเด็กแว้นไม่กล้ามาทำความผิดอีก และหน่วยที่พยายามพูดถึงสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญนั้น ขอให้อยู่ในกรอบบ้างไม่ใช่อะไรก็ทำไม่ได้ กระทบสิทธิไปหมด ถ้าเป็นอย่างนั้นปัญหาคงจะแก้ไม่ได้ และก็จะเห็นประชาชนที่หมดความอดทนกับเรื่องนี้ ในจำนวนที่มากขึ้น และอาจจะเกิดความสูญเสียมากกว่านี้ก็เป็นได้ พูดอย่างนี้ผมไม่ได้สนับสนุนให้คนอยู่เหนือกฎหมาย ไม่พอใจอะไรก็เอาปืนออกมายิง อย่างนี้ก็ไม่ถูกต้อง และเป็นการกระทำผิดกฎหมาย แต่เพียงอยากให้แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ไขอย่างจริงจัง ผลประโยชน์ที่ได้มันก็ไม่ได้ไปไหน ก็อยู่ที่เด็ก ๆ อยู่ที่ประชาชน อยู่ที่ปัญหาอาชญากรรมลดลง แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอ.

ฮีโร่เหมียวมะกันกระโจนไล่หมา ช่วยเด็กถูกขย้ำ


 เผยคลิประทึก แมวเหมียวในสหรัฐฯ ช่วยชีวิตหนูน้อย 4 ขวบ ด้วยการกระโจนเข้าไล่สุนัขที่กำลังขย้ำเด็ก
            เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ เปิดเผยคลิปวิดีโอสุดทึ่ง เมื่อเจ้าเหมียวในสหรัฐฯ ได้สร้างวีรกรรมน่ายกย่อง วิ่งเข้าไปช่วยไล่สุนัขที่กำลังขย้ำเจ้านายตัวน้อยของมันเอง จนสุนัขหนีไป
            เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองเบเกอร์ฟิลด์ รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่หนูน้อยเจเรมี่ ไทรอันทาฟิโล วัย 4 ขวบ กำลังขี่จักรยานคันเล็กอยู่ข้างรถยนต์นอกบ้าน ระหว่างนั้นเองสุนัขตัวหนึ่งได้เห็นเข้า จึงตรงเข้ามาจู่โจมด้านหลัง ลากร่างหนูน้อยเจเรมี่ไปขย้ำ แต่ปรากฏว่า หลังจากมันเพิ่งขย้ำหนูน้อยได้เพียงไม่กี่วินาที เจ้าแมวเหมียวทาร่า ในอาณัติของครอบครัวไทรอันทาฟิโล ได้วิ่งตรงดิ่งเข้าไปในที่เกิดเหตุและกระโจนเข้าใส่สุนัข ก่อนจะวิ่งไล่สุนัขออกไปไกล แล้ววิ่งกลับเข้ามาดูเจเรมี่ เจ้านายน้อยของมันอีก 

            อย่างไรก็ดี หลังเกิดเหตุ เอริกา แม่ของเจเรมี่ก็เข้ามาช่วยเหลือ และพบว่าเจเรมี่โดนสุนัขกัดเป็นแผลลึกที่บริเวณขา จึงพาไปโรงพยาบาลและแพทย์ก็ได้เย็บแผลให้ ส่วนเจ้าสุนัขตัวที่ก่อเหตุ ตอนนี้ถูกทางการจับส่งหน่วยควบคุมสัตว์เบเกอร์ฟิลด์เรียบร้อยแล้ว 

            จากเหตุการณ์ดังกล่าว หนูน้อยเจเรมี่ได้เปิดเผยว่า เจ้าทาร่าเป็นฮีโร่ของเขาจริง ๆ ขณะที่คุณพ่อของเจเรมี่นั้นก็ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเผยแพร่ บอกเล่าวีรกรรมของเจ้าทาร่า จนเจ้าทาร่าได้รับการชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมาก

ระวัง!! ภัยนักเรียนช่วงเปิดเทอม


ระวัง!!! ภัยนักเรียนช่วงเปิดเทอม (สสส.)            ช่วงนี้สถานศึกษาเริ่มเปิดภาคเรียนกันแล้ว เด็กต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในสถานศึกษามากกว่าอยู่ที่บ้าน จึงมักเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับนักเรียน ทั้งช่วงที่อยู่ในสถานศึกษา และระหว่างการเดินทางไป -กลับโรงเรียน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนในช่วงเปิดภาคเรียน ขอเสนอวิธีป้องกันอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นกับนักเรียนในช่วงเปิดภาคเรียน เพื่อให้การเดินทางไปโรงเรียนและการใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนของนักเรียนเป็นไปด้วยความปลอดภัย ดังนี้

 อุบัติเหตุทางถนน
 
             การเดินถนน ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กเรียนรู้วิธีการข้ามถนนอย่างถูกต้องและปลอดภัย โดยสอนให้เด็กเดินบนทางเท้าหรือฟุตบาต ไม่เดินชิดขอบถนนหรือใกล้ทางเดินของรถ ให้เดินสวนทางกับรถ เพื่อจะได้มองเห็นรถที่กำลังแล่นมา หากเป็นถนนที่ไม่มีทางเท้า ควรเดินชิดขอบริมทางขวาของถนน และถ้าเดินเป็นหมู่คณะให้เดินเรียงเดี่ยว สำหรับผู้ปกครองที่จูงเด็กเดินริมฟุตบาธ ควรให้เด็กเดินด้านในของถนนและจับมือเด็กไว้ให้มั่น เพื่อป้องกันเด็กวิ่งออกไปทางเดินของรถ ทำให้ถูกรถชน 

             การข้ามถนน ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กเรียนรู้วิธีการข้ามถนนอย่างปลอดภัย โดยให้เด็กข้ามถนนตรงทางม้าลายหรือใช้สะพานลอยทุกครั้ง ถ้าไม่มีสะพานลอยควรข้ามถนนพร้อมผู้ใหญ่หรือในบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลจะปลอดภัยมากกว่า ก่อนข้ามถนนควรมองรถทางด้านซ้ายและขวาเสียก่อนจนแน่ใจว่าไม่มีรถจึงค่อยเดินข้ามถนน และควรระมัดระวังรถจักรยานยนต์ที่อาจแซงขึ้นมาอย่างรวดเร็วในขณะที่กำลังข้ามถนน จากนั้นจึงข้ามถนนครึ่งหลังต่อไป 

             การโดยสารรถโดยสารประจำทาง ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กรอรถโดยสารประจำทางในจุดที่จัดให้รอ เช่น ป้ายรถโดยสาร หรือจุดที่อนุญาตให้จอดรถ ซึ่งมีความปลอดภัยและสะดวกต่อการรับ -ส่ง และเพื่อความปลอดภัย ควรรอให้รถจอดสนิทเสียก่อน จึงค่อยก้าวขึ้นหรือลงจากรถอย่างเป็นระเบียบ ไม่แย่งกันขึ้นรถ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายและไม่ยืนโหนบริเวณประตูรถ เพราะอาจพลัดตกจากรถได้รับอันตรายได้ ขณะอยู่ในรถห้ามยื่นศีรษะ แขน ขา ออกนอกรถ ไม่หยอกล้อเล่นกัน เพราะอาจได้รับอันตรายจากแรงเหวี่ยงของรถเวลารถเลี้ยวหรือเบรกกะทันหัน สำหรับการลงจากรถโดยสารควรรอให้รถจอดให้สนิทเสียก่อนแล้วมองด้านซ้ายด้านขวาจนแน่ใจว่าไม่มีรถวิ่งสวนมาจึงค่อยเดินลงจากรถ ห้ามกระโดดลงจากรถในขณะที่รถกำลังวิ่งอย่างเด็ดขาด และไม่ควรแย่งกันลงรถ เพราะอาจพลัดตกลงมาจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต 
              การใช้บริการรถรับ – ส่งนักเรียน สำหรับนักเรียนที่ใช้บริการรถโรงเรียนหรือรถรับส่งนักเรียน ผู้ปกครองควรเลือกใช้บริการรถรับ –ส่งนักเรียนจากสถานศึกษาที่มั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย ส่วนโรงเรียนซึ่งเป็นผู้ดูแลรถรับ-ส่งนักเรียน ควรควบคุมสภาพรถรับ – ส่งนักเรียนให้เป็นไปตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก ไม่ดัดแปลงสภาพรถ ภายในรถมีอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น เครื่องดับเพลิง เหล็กชะแลง ค้อนทุบกระจก และเครื่องมือปฐมพยาบาล เป็นต้น จัดเก็บไว้ในจุดที่สามารถนำใช้ได้ทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอดจนจัดให้มีพนักงานประจำรถดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับนักเรียน

 อุบัติภัยในสถานศึกษา
 
            ผู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์ ต้องร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมในโรงเรียนให้ปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณสนามเด็กเล่น และบริเวณถนนหน้าโรงเรียน ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงที่มักเกิดอุบัติภัยกับนักเรียน ดังนี้ 

             สนามเด็กเล่น ควรยึดติดเครื่องเล่นที่หมุนหรือเคลื่อนที่ได้กับพื้นอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเครื่องเล่นล้มทับเด็ก และตรวจสอบเครื่องเล่นให้อยู่ในสภาพแข็งแรงอยู่เสมอ หากเครื่องเล่นชำรุด ให้เรียกช่างมาดำเนินการแก้ไขทันที จัดพื้นที่สนามเด็กเล่นให้เป็นสัดส่วน ทำรั้วรอบสนามเด็กเล่น เพื่อป้องกันเด็กแอบเข้าไปเล่นเครื่องเล่นจนได้รับอันตรายในช่วงที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย 

             บริเวณถนนหน้าโรงเรียน ควรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวก และจัดครูดูแลความปลอดภัยในการข้ามถนนและการขึ้นลงรถของนักเรียน รวมถึงจัดสถานที่จอดรถรับ – ส่ง นักเรียนให้เป็นระเบียบ 

            นอกจากนี้ ทางโรงเรียนควรจัดให้มีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและมีอุปกรณ์ดับเพลิง หมั่นตรวจสอบบริเวณตู้น้ำเย็นมิให้เกิดการชำรุดและไฟรั่วหรือดูด หากพบควรแก้ไขทันที 
             จะเห็นได้ว่า ช่วงเปิดภาคเรียน เป็นช่วงที่เด็กเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากอุบัติภัย เพื่อความปลอดภัยผู้ปกครองต้องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่เด็กเดินทางไปโรงเรียน ส่วนทางโรงเรียนต้องสร้างสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้ปลอดภัย เพราะนอกจากจะทำให้เด็กใช้ชีวิตในสถานศึกษาได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดอุบัติภัยที่อาจเกิดกับนักเรียนในช่วงเปิดภาคเรียนด้วย




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย

ยาบ้าสูตรใหม่ผสมเฮโรอีน อันตรายถึงตาย


ป.ป.ส.แถลงยันยาบ้าตราสิงโตเหยียบลูกโลก กว่า 4 แสนเม็ดที่ถูกจับได้มีเฮโรอีนผสมและลักลอบผลิตจากโรงงานของกลุ่มมูเซอ หากผู้เสพเข้าไปในปริมาณที่มากอาจเสียชีวิตได้
       
       วันนี้ (19 มี.ค.) ที่สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. หลักสี่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย น.ส.กัญญนันทน์ คงภัสนิธิโรจน์ นักวิทยศาสตร์ผู้ชำนาญการพิเศษการตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ร่วมกันแถลงข่าวการวิเคราะห์สารประกอบหีบห่อของบรรจุภัณฑ์ยาบ้า และแหล่งที่มาของยาบ้า พบว่าตราสิงโตเหยียบลูกโลกที่จับกุมได้ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมานั้นมีเฮโรอีนเป็นส่วนผสมด้วย
       
       พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า พบว่ายาบ้าทั้งหมดที่มีจำหน่ายในประเทศนั้นมีแหล่งผลิตจากกลุ่มหลัก 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ ว้าเหนือ ว้าใต้ และมูเซอ โดยกลุ่มว้าเหนือซึ่งเป็นกลุ่มดั้งเดิม มีแหล่งผลิตอยู่ที่เมืองปางซาง ประเทศพม่า มีตราสัญลักษณ์หรือตราประทับเป็นรูป Y1 และ A มักพบว่ามีการลักลอบนำเข้าจากชายแดนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนกลุ่มว้าใต้ มีโรงงานและแหล่งผลิตอยู่ที่เมืองยอน ประเทศพม่า มีตรา สัญลักษณ์เป็นรูปหมายเลข 999, 1 หรือ 2 อยู่ในวงกลม และกลุ่มมูเซอ มีโรงงานและแหล่งผลิตอยู่ที่บ้านปู่นาโก่ และบ้านน้ำปุ๋ง มีตราสัญลักษณ์เป็นรูปจับมือ (Shake hands) หลายแบบ ซึ่งมีทั้งมือผู้หญิงและมือผู้ชาย, ตัวอักษรจีนสีแดงคำว่าเจิ้ง ซึ่งแปลว่าผ่านการตรวจสอบแล้ว, ตราเพชร (Diamond) สำหรับล่าสุดที่พบ มากและจับกุมได้มากที่สุด คือ กลุ่มมูเซอ ทั้งนี้ สำหรับหลักการวิเคราะห์ตัวยาบ้าแต่ละประเภท ดูจาก 5 ปัจจัยหลัก 1. ปริมาณสารเมทแอมเฟตามีน 2. ปริมาณกาเฟอีน 3. สีกลิ่น แป้ง 4. ตราสัญลักษณ์ Tool Mark และ 5. สิ่งห่อหุ้ม หรือบรรจุภัณฑ์ ทั้งนี้โดยสรุปแล้วทั้งว้าเหนือ ว้าใต้ และมูเซอนั้นมีส่วนประกอบของตัวยาใกล้เคียงกัน
       
       พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ล่าสุดจากกรณีที่มีการจับกุมยาบ้าตราสิงโตเหยียบลูกโลก จำนวนกว่า 400,000 เม็ด เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีเฮโรอีนผสมอยู่ด้วย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะผลิตจากโรงงานของกลุ่มมูเซอฝั่งประเทศพม่า ซึ่งผลิตเฮโรอีนส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นยาบ้ารูปแบบใหม่ที่มีการนำเฮโรฮีนมาผสมด้วย โดยสำนักงาน ป.ป.ส.จะสืบสวนขยายผลต่อไปทั้งในเรื่องของโรงงานผลิต เส้นทางลำเลียง กลุ่มผู้ค้า โดยเฉพาะผลกระทบสำหรับผู้ที่นำยาบ้าผสมเฮโรอีนล็อตนี้ไปเสพ ซึ่งเชื่อว่าจะติดได้ง่ายขึ้น และมีผลกระทบที่รุนแรงอย่างมาก โดยเฉพาะต่อจิตและประสาท เพราะทั้งกระตุ้นและกดประสาท ทำให้ผู้เสพมีอาการว้าวุ่น ประสาทหลอน หากเสพในปริมาณมากๆ อาจตายได้ในที่สุด
       
       อยากฝากให้พี่น้องประชาชนดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดโดนเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม และหากพบเบาะแสเรื่องยาเสพติดขอให้รีบแจ้งทางการ เพราะหากยาเสพติดล็อตนี้หลุดไปสู่เยาวชนถือว่ามีความอันตรายเป็นอย่างมาก

credit : http://www.manager.co.th/Crime