วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

พ่อจีนเฆี่ยนลูกสาวดับ สุดโมโหที่ลูกแอบลอกการบ้าน


พ่อจีนโมโหลูกสาวลอกการบ้านเพื่อน จับลูกคุกเข่ามัดมือก่อนใช้ไม้เฆี่ยนลูกจนเสียชีวิต

          วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 สำนักข่าวซินหัว มีรายงานว่า เกิดเหตุคนงานอพยพในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ใช้ไม้เฆี่ยนลูกสาววัย 11 ขวบ จนถึงแก่ความตาย เหตุโมโหจัดหลังจับได้ว่าลูกสาวแอบลอกการบ้านเพื่อน 

          โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนายจางผู้เป็นพ่อ ได้สั่งให้ลูกสาวของเขาคุกเข่า มัดมือของเธอไว้ก่อนเฆี่ยนตีอย่างหนัก หลังจับได้ว่าลูกสาวแอบลอกการบ้านเพื่อนร่วมชั้นมาหลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งลูกสาวของเขาหมดสติและหยุดหายใจไป นายจางจึงรู้สึกตัวและรีบพาลูกส่งโรงพยาบาล แต่นั่นก็ไม่ทันเสียแล้ว และเด็กหญิงก็ได้สิ้นใจในเวลา 14.30 น. วันถัดมา (20 พฤษภาคม) ขณะที่แพทย์ยังได้พบรอยฟกช้ำและบาดแผลที่รอบคอและแผ่นหลังของเด็กหญิง ทั้งยังมีสัญญาณของการขาดอากาศหายใจนาน 5 นาทีด้วย

          ทั้งนี้ การลงโทษเด็กเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติของชาวจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทซึ่งผู้ปกครองได้ตั้งความหวังถึงความสำเร็จในด้านการศึกษาของบุตรหลานไว้สูงมาก 

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก zibosky.com

อย. เตือนอย่าซื้อยาทำแท้งผ่านเน็ต อันตรายถึงชีวิต

     
    อย. เตือน อย่าซื้อยาทำแท้งที่โฆษณาขายในอินเทอร์เน็ตมาใช้ กินแล้วอาจมดลูกแตก ตกเลือด ถึงขั้นเสียชีวิต ย้ำ ยาที่ขายผิดกฎหมาย 
              เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ในฐานะโฆษก อย. กล่าวถึงกรณีที่พบการลักลอบขายยาทำแท้งไซโตเท็ค และยาอาร์ยู 486 ผ่านทางเว็บไซต์ต่าง ๆ ว่า รู้สึกเป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะยาไซโตเท็ค จัดเป็นยาควบคุมพิเศษที่ให้ใช้เฉพาะในโรงพยาบาลเท่านั้น โดยมีข้อบ่งใช้สําหรับรักษาแผลของลําไส้เล็กส่วนต้นของกระเพาะอาหาร รวมทั้งแผลที่เกิดเนื่องจากการใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) ในผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบ แต่ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่วางแผนการตั้งครรภ์โดยเด็ดขาด

              รองเลขาธิการฯ และโฆษก อย. กล่าวต่อไปว่า จากผลข้างเคียงที่ระบุเป็นข้อห้ามใช้ยาดังกล่าวนี้เอง จึงทําให้มีการนํายามาใช้ผิดวิธีและผิดกฎหมาย ซึ่งผลที่ตามมานั้นอาจทําให้มดลูกเกิดการรัดตัวอย่างรุนแรงจนเกิดการปริแตก และอาจเกิดภาวะตกเลือดในช่องท้องอย่างเฉียบพลัน จนช็อกจากการเสียเลือดมากและเสียชีวิตในที่สุด 

              สําหรับยาอาร์ยู 486 ที่โฆษณาอวดอ้างเป็นยาทําแท้งนั้น รองเลขาธิการฯ อย. ระบุว่า ยาดังกล่าวยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตํารับยาจาก อย. เนื่องจากเข้าข่ายเป็นยาที่ก่อให้เกิดผลกระทบด้านอื่น ๆ หรืออาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม และอาจมีการนําไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่าย จึงไม่สามารถนํามาจําหน่ายในประเทศไทยได้ ดังนั้น การจะทําแท้งหรือยุติการตั้งครรภ์ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด 

              ดังนั้น รองเลขาธิการฯ อย. จึงได้เตือนผู้บริโภคอย่าได้ซื้อยาใด ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ หรืออินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะยาที่จะนํามาทําแท้ง เพราะเป็นยาที่ลักลอบนําเข้ามาอย่างผิดกฎหมายแน่นอน ซึ่งอาจได้รับยาปลอม ยาเสื่อมคุณภาพ เนื่องจากไม่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในการเก็บรักษายา และอาจมีส่วนประกอบสําคัญของยาในปริมาณที่เกินกําหนด จนอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต 

              ทั้งนี้ หากพบเห็นการโฆษณายาทำแท้ง หรือได้รับอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ขอให้ร้องเรียนที่ สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือ E-mail :1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อ อย. จะได้ดําเนินการปราบปราม และดําเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทําผิดต่อไป




    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ทอมบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคารกสิกร หาเงินใช้หนี้



            เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด หลังมีสัญญาณเตือนภัยจากธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดดวงแก้ว ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบ

            ในที่เกิดเหตุพบระเบิดทำมือ (ระเบิดควัน) 3 ลูก อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ธนาคาร 1 ลูก อยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ 2 ลูก ซึ่งระเบิดด้านไม่ทำงาน 1 ลูก โดยผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นางสาวธนวัน ชื่นชวนชม อายุ 35 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุได้ถูกนายณรงค์ วงศ์ศิลปการ พนักงานแคชเชียร์ ตำแหน่งผู้บริหารเงินสดของธนาคาร และนายวิทวัส เขตรคง อายุ 29 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างวินตลาดดวงแก้วอยู่ติดกับธนาคาร ได้จับตัวคนร้าย พร้อมของกลางกระเป๋าเป้หลังสีดำ 1 ใบ บรรจุระเบิดควัน 4 ลูก และกระเป๋าสะพายข้างลายดอก 1 ใบ ระเบิดควัน 3 ลูก และเงินสดจำนวน 187,500 บาท ซึ่งได้ไปจากเคาน์เตอร์ธนาคาร

           จากการสอบสวน นางสาวธนวัน ให้การว่า ต้องการเงินไปใช้หนี้ธุรกิจที่เกี่ยวกับร้านคอมพิวเตอร์ โดยเดินทางไปธนาคารคนเดียว พร้อมสะพายกระเป๋า 2 ใบ จากนั้นได้ขว้างระเบิดควันเข้าไปในธนาคารก่อน 2 ลูก และขว้างระเบิดควัน 1 ลูก ไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ ในขณะที่พนักงานกำลังให้บริการลูกค้าอยู่ ก่อนที่จะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์และหยิบเงินสดในลิ้นชักเคาน์เตอร์ไปได้ 187,500 บาท แล้ววิ่งหนีข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเพื่อแอบอยู่ด้านหลังป้ายโฆษณารอจังหวะหลบหนี จนเจ้าหน้าที่ธนาคารที่วิ่งติดตามไปพบตัว

            จากนั้นเมื่อตนเห็นพนักงานธนาคาร จึงได้ข้ามฝั่งกลับมาที่ฝั่งเดียวกับธนาคารเพื่อเตรียมเรียกรถแท็กซี่แต่แท็กซี่ไม่รับ จนกระทั่งมีพลเมืองดีขับรถจักรยานยนต์รับจ้างวิ่งไล่ตามจนถูกจับตัวได้ในที่สุด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

จับหนุ่มฆ่ากดน้ำแฟนวัย 17 ปี อ้างแค้นไปชอบเพศเดียวกัน



ตำรวจรวบตัวชายอายุ 25 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช หลังก่อเหตุฆ่าทอมวัย 17 ปี เจ้าตัวอ้างเป็นแฟนกัน แต่ทอมไปจีบหลานสาว จึงทะเลาะกันและลงมือฆ่าด้วยความแค้น

           วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรีธรรมราช เข้าจับกุมตัว นายเอกพจน์ คชพลาย อายุ 25 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาฆ่า น.ส. เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แล้วทิ้งศพในคูระบายน้ำ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

           โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า นายเอกพจน์ และ น.ส. เอ ที่มีนิสัยเป็นทอม สนิทสนมไปกินเที่ยวด้วยกันตลอดและคบหากันแบบแฟนด้วย คือคบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่นายเอกพจน์โกรธแค้นที่ น.ส.เอ ไปจีบหลานสาวนายเอกพจน์ จึงทะเลาะกันอย่างรุนแรง และลงมือบีบคอพร้อมกดให้จมน้ำ ก่อนเหยียบศพจมโคลน ซึ่งเมื่อนำตัวผู้ต้องหาไปที่โรงพัก ก็มีญาติผู้เสียชีวิตและชาวบ้านมารุมประชาทัณฑ์อย่างชุลมุน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

สาววัย 15 ย่องลักทรัพย์นักเรียน รร.ดังนครพนม กว่า 2 แสน



            เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินของเด็กนักเรียนในห้องเรียนของโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด ทั้งนี้ จากการสอบถามผู้เสียหาย จำนวน 9 ราย เป็นนักเรียนหญิง 6 ราย และนักเรียนชาย 3 ราย อายุระหว่าง 14-15 ปี และทั้งหมดเป็นนักเรียนชั้น ม.3/11 English Program ซึ่งเป็นห้องเรียนวีไอพีของโรงเรียนดังกล่าว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนักเรียนทั้่งหมดได้เข้าแถวเคารพธงชาติหน้าเสาธง แต่เมื่อเดินกลับมายังห้องเรียนก็พบว่า กระเป๋านักเรียนถูกรื้อค้น และจากการตรวจดูพบว่า มีโทรศัพท์ จำนวน 9 เครื่อง และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งได้หายไป รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200,000 บาท 

           ซึ่งหลังรับแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตัว ด.ญ.โบว์ (นามสมมติ) เพื่อนร่วมชั้นของผู้เสียหายมาสอบปากคำ เนื่องจากระหว่างเกิดเหตุ  ด.ญ.โบว์ ได้นั่งอยู่ที่ห้องเรียนเพียงลำพัง ซึ่งทางด้าน ด.ญ.โบว์ ก็ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนขโมยทรัพย์สินของเพื่อนร่วมชั้นไป โดยหลังสอบปากคำเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เดินทางมาตรวจจุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานมาใช้ประกอบการดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ต่อไป

            จนกระทั่งในเวลา 17.00 น. ของวันเดียว มีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ในโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดได้แล้ว โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว คือ น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ น.ส.พิมพ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าว เพื่อทำเรื่องย้ายที่เรียนไปยังโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน ต.บ้านผึ้ง เนื่องจากเดิมที น.ส.พิมพ์ เรียนอยู่ชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นอดีตนักมวยหญิงด้วย

            น.ส.พิมพ์ เล่าต่อว่า เมื่อเดินทางมาถึงโรงเรียน เห็นว่า เด็กนักเรียนกำลังเข้าแถวอยู่ที่หน้าเสาธง ตนจึงตัดสินใจทำการรื้อค้นเอาทรัพย์สินของนักเรียนในห้อง เพื่อนำไปขายเพราะต้องการนำเงินไปใช้จ่าย ภายหลังจากที่ได้ทรัพย์สินมีค่า ตนก็ได้นำโทรศัพท์มือถือทั้งหมดไปขาย ก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ลูกชายสุดทน คว้าไม้ทุบหัวพ่อเลี้ยงดับ แค้นเมาทำร้ายแม่



            วันนี้ (22 พฤษภาคม 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า วานนี้ (21 พฤษภาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุมีคนฆ่ากันตายที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 4 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จึงรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบศพ นายเหมือน สุทธิ อายุ 50 ปี สภาพถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ด้านหลังศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิต โดยมี นายเฉลา จันทะคุณ อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวอยู่ใกล้ ๆ  

            จากการสอบสวนทราบว่า สาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือสังหารนายเหมือน เนื่องจากนายเหมือน ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของตนเองได้อยู่กินกับแม่ของตนคือ นางขาว สุทธิ อายุ 54 ปี มา 5 ปี แต่นายเหมือนเป็นคนชอบดื่มสุราและเมื่อเมาก็จะหาเรื่องทุบตีแม่ของตนเป็นประจำ โดยในวันเกิดเหตุนายเหมือนก็ดื่มสุราจนเมาและทำการทุบตีแม่อีกจนตนทนไม่ไหว บันดาลโทสะ ใช้ไม้ไผ่ตีที่ศีรษะของนายเหมือนจนถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการควบคุมตัวนายเฉลา ไปดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ช็อก แม่มะกันพบหนุ่มซ่อนในตู้เสื้อผ้าห้องลูกสาว ลักลอบมีอะไรกัน




            เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เว็บไซต์ wsoctv ของสหรัฐฯ รายงานว่า คุณแม่จากรัฐนอร์ธ แคโรไลนา ถึงกับช็อกสุดขีด เมื่อเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าในห้องลูกสาววัย 14 ปี แล้วพบหนุ่มแปลกหน้าซ่อนอยู่ข้างใน หนุ่มรายนี้รีบผละออกไปแต่ลืมโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์ทิ้งไว้ที่ห้อง พบว่าชื่อนายจาเรด เวิร์กแมน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา 
หลังแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว หนุ่มรายนี้ก็ยอมมามอบตัวในที่สุด จากการสอบปากคำพบว่าชื่อนายจาเรด เวิร์กแมน อายุ 27 ปี รู้จักกับลูกสาววัย 14 ปีของคุณแม่ทางอินเทอร์เน็ต โดยได้ติดต่อคุยกันมานาน 3 สัปดาห์ก่อนนัดเจอหน้ากัน โดยได้มาพบเด็กหญิงที่บ้านในวันที่ 27 เมษายน และซ่อนตัวอยู่ในห้องของเธอจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม จนกระทั่งถูกแม่ของเด็กหญิงมาพบตัวในตู้เสื้อผ้าเข้า ทางด้านเด็กหญิงก็ให้การตรงกัน โดยระบุว่าในช่วง 5 วันที่หนุ่มรายนี้ดอดมานอนด้วย ได้มีเพศสัมพันธ์กันไปแล้ว 1 ครั้ง

            นายจาเรดถูกนำตัวขึ้นศาลเป็นครั้งแรกเมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา (20 พฤษภาคม) โดยถูกตั้งข้อหา 16 กระทง รวมทั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนการพิจารณาโทษจะนัดไต่สวนอีกครั้ง ซึ่งนายจาเรดอาจต้องรับโทษจำคุกไปตลอดชีวิตโดยไม่ต้องรอลงอาญา

            ด้านมารดาของเด็กหญิงรายนี้ กล่าวว่า รู้สึกช็อกและขวัญเสียมากที่รู้ว่ามีคนแปลกหน้ามาหลบอยู่ในบ้านตัวเองตั้งหลายวัน ที่สำคัญยังแอบมีอะไรกับลูกสาวเธอด้วย เธออยากให้ผู้ปกครองรายอื่น ๆ เห็นความสำคัญของการสอดส่องดูแลพฤติกรรมในโลกออนไลน์ของลูก ไม่อย่างนั้นเด็กอาจกลายเป็นเหยื่อเหมือนลูกสาวของเธอ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ TomoNews US สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

ยายวัย 71 แจ้งความถูกหลานชายแท้ ๆ หลอกไปข่มขืน




            เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า นางนิด (นามสมมติ) วัย 71 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าถูก นายโอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นหลานชายแท้ ๆ ลวงไปข่มขืน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจับกุมหลานชายได้ ทั้ง ๆ ที่มีคนเห็นว่าหลานชายขี่รถจักรยานยนต์ตามถนน

            โดย นางนิด ให้การทั้งน้ำตาว่า นายโอเป็นลูกของลูกสาวตน ซึ่งเป็นหลานชายแท้ ๆ ที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 00.15 น. ของวันที่ 18 พฤษภาคม 2557 ขณะที่ลูกหลานนอนหลับพักผ่อนกันอยู่ในบ้าน นายโอได้ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 125 สีดำ แต่จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ มาที่บ้านแล้วมาปลุกตนพร้อมบอกว่า แม่ถูกรถชนให้ไปดูหน่อย

            จากนั้นตนจึงได้ซ้อนรถนายโอออกไป ก่อนนายโอจะพาไปวนตามซอยต่าง ๆ จนมาถึงบริเวณป่าหญ้า ซึ่งมีความมืด ก่อนจอดรถแล้วใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง และบอกให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ จากนั้นได้ขี่รถพาตนมาส่งที่บ้านก่อนหลบหนีไป จากนั้นตนจึงได้บอกลูก ๆ และพากันมาแจ้งความ

            ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า เบื้องต้นได้ออกหมายจับนายโอ ผู้ต้องหาแล้ว ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยหลังจากได้รับแจ้งความ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกระจายกำลังตามหาตัว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะยังคงอยู่ในพื้นที่ หากผู้ใดได้เบาะแสคนร้ายแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมได้ทันที

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก